banner banner banner
ศาสตร์ต้องห้าม
ศาสตร์ต้องห้าม
Оценить:
 Рейтинг: 0

ศาสตร์ต้องห้าม


“สำหรับค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้นในตอนนี้นะ เฮงเป็นหลานชายคนโปรดของฉัน และฉันคงไม่ชอบที่จะเห็นอะไรที่เกิดขึ้นกับใครก็ตาม ถ้ามันสามารถทำได้ภายใต้การควบคุมของฉันเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น”

“ฉันสามารถเดินกลับบ้านและเดินกลับมาเองได้… จะทานข้าวกันกี่โมงล่ะ”

“เจ็ดถึงเจ็ดโมงครึ่งเหมือนเดิมตามปกติค่ะ แล้วยินดีต้อนรับป้าเป็นที่สุด”

“โอเค ฉันจะออกไปตอนนี้เลยนะ แล้วเจอกันตอนทุ่มนึง ไปก่อนนะ”

“แล้วเจอกันค่ะ ป้าดา และขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่าง”

เมื่อดาออกไปแล้ว วรรณรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องอยู่คนเดียวกับสามีของเธอ มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เฮงล้มป่วย ขณะที่เด่นนำแพะลงไปที่ลำธาร และดินที่กำลังดูแลแปลงผักของครอบครัวอยู่ วรรณต้องการที่ไปบอกให้เด่นว่าเขาจะต้องฆ่าและเป็นคนเชือดลูกแพะที่วิ่งเล่นกับแม่ของมันในฝูง แต่เธอก็ไม่กล้าจะทิ้งเฮงไว้เพียงลำพัง ดินเป็นเพียงคนเดียวที่จะไปได้ ดังนั้นเธอก็หวังว่าดินจะกลับมาทานกลางวัน แต่โดยปกติแล้วเธอก็ทำเช่นนั้น วรรณจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเฮงจะได้กินสเต็กเนื้อ

เธอพยายามพูดกับเขา และก็ไม่มีใครได้ยิน เธอจึงใช้การแสดงความรัก

“เฮงที่รัก เธอตื่นหรือยังที่รัก เราทั้งหมด… และฉันเป็นห่วงเธอมาก… ได้โปรดตอบฉัน ถ้าเธอได้ยินฉัน”

“แน่นอน ฉันเพิ่งได้ยินเธอเมื่อตอนฉันตื่น แต่ฉันก็เผลอหลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า มัด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงใหม่ที่ต่ำ และดังก้อง “และฉันคิดว่าตอนนั้นฉันพลาดบางสิ่งไป โดยทั่วไปแล้วฉันรู้สึกดีขึ้นมาก แค่รู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย ฉันกำลังตั้งตารอทานอาหารเย็น

“ตอนนี้กี่โมงเเล้วนะ”

“สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้า เราจะทานอาหารกลางวันกันในอีกสักครู่ เธอต้องการอะไรไหม”

มันมีอะไรบ้างล่ะ”

“โอ้ สลัด…”

“บ๊ะ อาหารกระต่ายหรอกหรือ!”

“แต่ แต่คุณเคยชอบผักสลัดสีเขียวมากนะเฮง… ”

“ฉันเคยชอบด้วยหรือ ฉันนึกไม่ออกเลย และก็จำไม่ได้ว่าชอบมัน”

“แล้วไข่เจียวล่ะ”

ได้นะ ฟังดูดีกว่า เธอช่วยผสมมิลค์เชคให้หน่อยได้ไหม”

“ได้สิ ที่รัก ทำไม่จะไม้ได้ล่ะ ฉันพอมีอยู่ แล้วค่อยเตรียมสำหรับมื้อเย็นทีหลัง

“เราจะรอดินอีกสามสิบนาที ดูว่าเธอจะกลับมาหรือไม่ ฉันต้องการให้เธอไปบอกเด่นให้ฆ่าลูกแพะสักตัวเอาไว้ให้เธอ”

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ดินก็หยิบมีดสองสามเล่ม และถุงใส่เนื้อ และกระติกสำหรับใส่เลือดให้พี่ชาย เพื่อที่เขาจะได้ทำภาระกิจอันน่ากลัวของเขา จากนั้นดินก็กลับไปที่แปลงผัก

“เธอดูเหมือนจะชอบไข่เจียวใช่ไหม เฮง”

ใช่ มันดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหาร อุดมไปด้วยโปรตีน”

วรรณวนเวียนอยู่รอบ ๆ เฮงตลอดบ่าย หั่นผัก และทำน้ำพริก ซอสพริก แต่เฮงก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะนอนพักกลางวัน หรืออาจจะงีบหลับช่วงบ่ายหลังจากรับประทานอาหารมื้อแรกในเวลาสองสามวัน

ดินกลับมาเป็นคนแรกในตอนเย็นพร้อมด้วยตะกร้าผัก และสมุนไพรสำหรับทำอาหารในวันถัดไป เด่นมาถึงในเวลาต่อมาเพียงเล็กน้อย และยื่นถุงเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่าเรียบร้อย และกระติกเลือดจากแพะที่ตายให้แม่ของเขา

“ฉันจะต้องไป และทาเกลือลงบนผิวมันเลยใช่ไหม แม่ ฉันขูดหนังมันเหมือนที่พ่อเคยทำให้ดูแล้ว ฉันจะกลับมาอีกยี่สิบนาที”

“ไม่ต้องรีบไป เรายังมีเวลาอีกมาก เธอต้องอาบน้ำก่อนหลังจากเชือดแพะมา ก่อนที่จะมาที่โต๊ะอาหารด้วยนะ”

“แน่นอนครับแม่…”

“อืม มิลค์เชค ฉันได้กลิ่นหอมของมิวล์เชค… ” เฮงคนมันพร้อมกับบ่นงึมงำ

“ใช่ เฮง มิลค์เชค…มัดจะทำมิลค์เชคให้เธอทีหลัง แต่ก่อนอื่นต้องทำอาหารก่อนที่ป้าเธอจะมาถึงที่นี่

วรรณกระซิบบอกดิน” ฉันเชื่อว่าเขาสามารถได้กลิ่นเลือดแพะหรือเนื้อสัตว์ ดูจมูกของเขาสิ กระตุกเหมือนแม่มดเลย ใครจะไปเชื่อว่าอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เราจะมีชีวิตได้แบบนี้”

วรรณนำเนื้อส่วนที่เหลือแช่ในช่องแช่แข็ง แล้วเอาเนื้อสำหรับเฮงออกไปหั่นให้เพียงพอที่จะไม่ให้กลิ่นเลือดไปรบกวนเขา และทำงานบ้านต่อไป เฮงกลับไปนอนหลับเหมือนของเล่นไขลานที่ลานอ่อน

ตอนหกโมงสี่สิบห้า วรรณเอาผักที่หั่นแช่น้ำขึ้นจากน้ำให้สะเด็ดน้ำ ติดไฟในถังที่พวกเขาใช้ปรุงอาหารบนบล็อกคอนกรีตเก่าที่อยู่บนโต๊ะ และเติมถ่านไปอีกสองสามก้อน คืนนี้พวกเขาจะทานหมูย่างของโปรดของเด็ก ๆ

อุปกรณ์สำหรับการทำหมูย่างนั้นเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ มันเป็น “จาน” โลหะที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องคั้นน้ำส้มสมัยก่อน รางรอบถูกเติมน้ำลงไปสำหรับต้มผัก และเส้นหมี่ที่ทำจากข้าว และย่างเนื้อสัตว์บนส่วนที่นูนคล้ายภูเขา ทุกคนปรุงอาหารของตัวเอง และเติมให้กันและกันเพื่อให้มันยังคงเป็นมื้ออาหารที่ทานร่วมกัน

เมื่อดามาถึงราวทุ่มสิบนาทีพอดิบพอดี วรรณจึงให้ดินไปเอาเนื้อจากตู้เย็นใต้ถุนบ้านออกมา เมื่อเธออยู่ห่างจากโต๊ะไม่เกินสิบหลา เฮง “กลับมามีชีวิตอีกครั้ง” จมูกเริ่มกระตุกได้

“อืม มิลค์เชคล่ะ!”

“รอก่อนสิ เฮง มิลค์เชคเอาไว้ทีหลัง ทานเนื้อลูกแพะย่างก่อน”

“อืม เนื้อลูกแพะย่าง อร่อย ไม่สุกมาก… ”

ดารู้สึกทึ่งและบันทึกไว้ในดวงจิต

เมื่อวรรณใส่เนื้อบนถาดย่าง เฮงถอดแว่นกันแดดออกเพื่อให้มองชัดขึ้นท่ามกลางแสงที่มืดลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาส่องประกายเหมือนสัญญาณเตือนไฟสีแดงวาว ทำให้เด็ก ๆ ตัวสั่นด้วยความกลัวและความฉงนใจ

ทุกคนที่นั่นจะบอกว่าผักต้ม และเนื้อสัตว์ปรุงอาหารมีกลิ่นหอมมาก แต่เฮงเป็นคนพูดก่อนเสียด้วย

“เนื้อลูกแพะย่างมีกลิ่นหอมมากในตอนนี้! อย่าเผาเลือด เฮงต้องการเนื้อที่ไม่สุกมาก… ที่ไม่มีผัก กลิ่นมันแย่มาก”

“ใช่ เฮง ฉันรู้ ไม่สุกมาก แต่ก็ไม่ดิบ นี่มันยังดิบอยู่ เธอต้องรออีกสักสองสามนาที”

“ไม่นะ มัด ฉันจะกินแบบนี้ ตอนนี้กลิ่นมันหอมมาก แต่ได้กลิ่นน้อยลงไปเรื่อย ๆ ฉันต้องการของฉันเดี๋ยวนี้”

“เอาล่ะ เฮง เอาที่สบายใจ คุณอยากได้ผักกินกับเนื้อของคุณ หรือเส้นหมี่สักหน่อยไหม”

“ไม่ เอาแต่เนื้อ ต้องการเนื้อกระต่าย ไม่ใช่อาหารกระต่าย”

วรรณเอาเนื้อสองชิ้นมาจากเตาไฟ เอาวางบนจานให้เฮงชิ้นหนึ่ง ยื่นและเอามันให้เขา

“ที่อยู่ตรงนั้นน่ะ พ่อ แต่สำหรับฉันมันก็ยังดูน่ากลัวเหมือนมีเลือดติดอยู่เลย พ่อเคยทำเนื้อสุกเหมือนพวกเรามาตลอดนะ”

เฮงเอาจานขึ้นมาดมกลิ่น เขาทำจมูกกระตุกเหมือนกระต่าย จากนั้นเขาก็วางจานไว้บนตักหยิบชิ้นเนื้อด้วยสองมือขึ้นมาดมกลิ่นอีกครั้ง

“หอมมาก” เขาพูด “สุกไปหน่อย แต่ก็อร่อยดี”