Книга ศาสตร์ต้องห้าม - читать онлайн бесплатно, автор Owen Jones. Cтраница 3
bannerbanner
Вы не авторизовались
Войти
Зарегистрироваться
ศาสตร์ต้องห้าม
ศาสตร์ต้องห้าม
Добавить В библиотекуАвторизуйтесь, чтобы добавить
Оценить:

Рейтинг: 0

Добавить отзывДобавить цитату

ศาสตร์ต้องห้าม

“เด่น เธอยังพอมีแว่นกันแดดเก่า ๆ อยู่บ้างไหม ฉันคิดว่าพ่อของเธอต้องการมันวันนี้ เพราะว่าดวงตาเขาไวต่อแสงนิดหน่อย”

ดาพูดว่า “เธอสามารถเอาเฮงไปที่ห้องน้ำคนเดียวได้ไหมวรรณ หรือเธอต้องการให้เด่นไปช่วยเธอไหม”

“ไม่ ฉันคิดว่าฉันสามารถจัดการเองได้”

เธอพาเฮงออกไป เฮงใช้มือข้างที่ว่างบังสายตาของตัวเอง หลังจากนั้นสิบห้านาทีเมื่อพาเขากลับมาที่โต๊ะแล้ว เขาดูเหนื่อยจากความพยายาม

“ดินขึ้นไปชั้นบน แล้วช่วยเอาผ้าปูที่นอนกับหมอนมาให้หน่อยได้ไหม วันนี้พ่อเธอจะลงมาพักผ่อนด้านล่างเพื่อรับอากาศบริสุทธิ์ และแสงแดด เขาไม่เคยใช้เวลามากเกินไปข้างในนี้ในชีวิตของเขาเลย ดังนั้นร่างกายของเขาไม่คุ้นเคยกับมัน ดูสภาพเขาสิ… ”

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเฮงมองคนสนทนากันไปมา แต่ดูเหมือนจะไม่เข้าใจบทสนทนาสักเท่าไหร่ พวกเขาช่วยทำให้เฮงสบายขึ้นด้วยชุดเครื่องนอน และเด่นเอาแว่นกันแดดที่มีเลนส์สะท้อนแสงสีดำสนิทที่เขามีอยู่ให้ ซึ่งเขาเองภูมิใจมากเมื่อหลายปีก่อนตอนที่มันกำลังฮิต

ผลที่ตามมาคือ เฮงดูเหมือนนกประหลาดตัวหนึ่งที่เกาะอยู่บนหลังคาแล้วสวมแว่นตา และถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสีขาว

“เอาล่ะ ฉันคิดว่าดีขึ้นแล้ว และเธอควรจะไปเตรียมมิลค์เชคสำหรับพ่อของเธอได้แล้ว เขาดูเหมือนจะหิวมากวันนี้ และนั่นเป็นสัญญาณที่ดี มันแสดงว่าเรากำลังทำอะไรที่ถูกทางอยู่!”

“วันนี้พ่อรู้สึกดีขึ้นมากใช่ไหม”

พวกเขาทุกคนรอปฏิกิริยาโต้ตอบของเขา จากนั้นเขาก็พยักหน้าดูราวกับนกเค้าแมวอย่างไม่น่าเชื่อ เด่นและดินพากันหัวเราะ พบว่ามันยากมากที่จะเปรียบสิ่งมีชีวิตบนโต๊ะอาหารกับพ่อของพวกเขาเมื่อยี่สิบสี่ชั่วโมงที่แล้ว

“ป้าคิดว่าฉันจะทำอาหารให้เฮงทานในเย็นนี้หรือเปล่า ป้าดา”

“มันก็ไม่ส่งผลต่อเขา ถ้าเขาจะกิน แต่มันก็ไม่มีอะไรทดแทนมิลค์เชคได้”

“เฮง เธอต้องการจะกินบางอย่างกับพวกเราทีหลังไหม”

เฮงโยกหัวจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง และจ้องมองไปที่ภรรยาของเขา

“เธอจะทำอาหารอะไรในคืนนี้ วรรณ” ดาถาม

“ไก่หรือหมู… อะไรก็ได้ที่เขาชอบ”

เฮงยังคงมองจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่งเหมือนคนในประเทศที่เขาไม่ได้พูดภาษาเดียวกัน

“ทำไมไม่ถามเขาล่ะ เขาไม่ได้กลายมาเป็นคนโง่ หรืออย่างน้อยฉันไม่คิดว่าเขาจะเปลี่ยนไปเลย”

“เธอต้องการจะกินอะไรเย็นนี้ เฮง หมูหรือไก่”

เขามองมาที่เธอสักพัก แล้วบอกว่า:

“ลูก…”

“คนไหนนะ ยังไงก็แล้วแต่ เฮง เธอไม่สามาถกินลูกได้… มันไม่ถูกต้อง”

“ไม่ใช่ลูกของเรา… ลูกแพะ… เรายังพอมีสักสองสามตัวหรือไม่” เฮงถาม

“มีสิ เรายังคงพอมีอีกบ้าง แต่ฉันคิดว่าเรากำลังจะเอามันไปรวมกับฝูง”

“แค่ลูกแพะตัวเดียวเอง”

ได้ เอาล่ะ ตกลง เฮง เห็นว่าเธอป่วยอยู่นะ ฉันจะทำเนื้อลูกแพะหั่นให้คืนนี้ และพวกเราที่เหลือจะทานหมูกัน”

“ฉันต้องการบาร์บีคิวไม่สุกมาก ไม่ใช่แกงนะ วรรณ ฉันอยากได้เนื้อบางส่วน เนื้อแดงแท้ ๆ

เด็ก ๆ รู้สึกโล่งใจที่สุดที่พ่อของพวกเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะกินพวกเขาด้วยเช่นกัน

เมื่อถึงเวลาที่ดูเหมือนว่าเฮงต้องไปนอนหลับรออาหารเย็นของเขา เด่นถามแม่ของเขาว่าวันหนึ่งเขาจะอยากกินพวกเขาไหม

โอ้ ฉันไม่ควรคิดอย่างนั้น เด่น ไม่ใช่ว่าเราจะต้องทำตามใจเขา ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ว่ามันคืออะไรไง”

“ป้าดา ป้าคิดว่าอย่างไรกับเงื่อนไขของเฮง”

“ฉันคิดว่ามันน่าสนใจมาก… น่าสนใจมากจริง ๆ เธอจะสังเกตว่าเมื่อวาน เฮงได้เคาะประตูแห่งความตายอยู่ แต่ตอนนี้เขากลับกลายมากระฉับกระเฉงขึ้นมากภายในเวลาเพียงแค่ชั่วโมงเดียว แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงความเป็นเฮงคนเดิมที่เราเคยรู้จักและรักมากก็ตาม”

“เราจะต้องดูว่าเฮงคนใหม่นี้จะออกมาเป็นอย่างไร หรือบางทีเราอาจจะเอาคนเก่ากลับคืนมาอีกครั้ง เมื่อเขาคุ้นเคยกับการบริโภคอาหารแบบใหม่ของเขา และฟื้นตัวจากช่วงเวลาขาดเลือดที่แท้จริงในตัวเขา”

“การเดาของเธออาจจะไม่ดีเท่าฉัน แต่ฉันยอมรับว่าฉันกำลังอยู่ในดินแดนแห่งใหม่ที่นี่ และกำลังเล่นเกมนี้ด้วยการใช้หู และด้วยคำแนะนำบางอย่างจากเพื่อนเจตภูตของฉัน แม้ว่าจะมีคนบอกว่ามันจะดีกว่าที่จะเป็นผู้มีเมตตาที่ไม่ฆ่าเขา และปล่อยให้เขาไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง”

“เธอคิดอย่างไรกับคำแนะนำนั้น วรรณ”

“เอ่อ พูดตามตรงฉันคิดว่ามันค่อนข้างจะร้ายแรงอยู่ไม่ใช่เหรอป้าดา”

ใช่ ฉันคิดแบบนั้น ฉันจะเห็นด้วยกับเธอนั่นคือทำไมฉันถึงยังไม่ได้แนะนำมัน แต่มันยังคงเป็นตัวเลือก หากมันเกินความสามารถ

ในการสนทนานี้ ดูเหมือนว่าเฮงกำลังจะหลับ แต่เธอไม่ได้ตรวจสอบ

“คุณคิดว่าเขาทนทุกข์กับความเจ็บปวดไหม ป้าดา”

“เขาดูเหมือนสงบมาก… ใช่ไหม เขาพูดได้อีกครั้งตอนนี้ และยังไม่ได้พูดว่ารู้สึกไม่สบายใด ๆ เลย ดังนั้นฉันจะคงไม่กังวลเกี่ยวกับเรื่องของสภาพทางกาย ถ้าฉันเป็นเธอนะ แต่เธอรู้จักเขาดีกว่าคนอื่น ดังนั้นมันเป็นหน้าที่ของเธอที่ต้องมองหาสัญญาณทางความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง และรายงานให้ฉันฟัง แล้วเราค่อยคุยกัน”

“ได้ค่ะ ป้าดา ฉันจะทำมัน ฟังนะ ถ้าเธอมีอย่างอื่นที่ต้องทำ อย่าปล่อยให้เรารั้งเธอไว้ เด็ก ๆ ทำทุกอย่างได้วิเศษมาก พวกเขาเข้ามาดูแลงานบ้านทั้งหมดของเราเพื่อที่ฉันจะได้นั่งกับเฮง แต่ถ้าป้าต้องการกลับบ้าน ฉันสามารถไปส่งป้าได้ เราทุกคนรู้สึกซาบซึ้งใจสำหรับความช่วยเหลือของป้า เฮงอาจจะตายถ้าไม่มีป้า และเราทุกคนตระหนักในเรื่องนี้ดี ถ้ามีอะไรที่เราสามารถทำเพื่อป้าได้ หรืออะไรทั้งหมดที่ต้องทำบอกเราได้เลยนะคะ”

“ได้สิ ขอบใจ วรรณ บางทีฉันจะกลับบ้านไปสักสองสามชั่วโมง แต่ฉันอยากจะเห็นเฮงทานเนื้อลูกแพะก่อน ดังนั้นถ้าฉันสามารถจะทานข้าวกับเนื้อหมูพร้อมพวกเธอคืนนี้ มันคงจะดีนะ”

“สำหรับค่าใช้จ่าย ไม่ต้องกังวลกับเรื่องนั้นในตอนนี้นะ เฮงเป็นหลานชายคนโปรดของฉัน และฉันคงไม่ชอบที่จะเห็นอะไรที่เกิดขึ้นกับใครก็ตาม ถ้ามันสามารถทำได้ภายใต้การควบคุมของฉันเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น”

“ฉันสามารถเดินกลับบ้านและเดินกลับมาเองได้… จะทานข้าวกันกี่โมงล่ะ”

“เจ็ดถึงเจ็ดโมงครึ่งเหมือนเดิมตามปกติค่ะ แล้วยินดีต้อนรับป้าเป็นที่สุด”

“โอเค ฉันจะออกไปตอนนี้เลยนะ แล้วเจอกันตอนทุ่มนึง ไปก่อนนะ”

“แล้วเจอกันค่ะ ป้าดา และขอบคุณอีกครั้งสำหรับความช่วยเหลือทุกอย่าง”

เมื่อดาออกไปแล้ว วรรณรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องอยู่คนเดียวกับสามีของเธอ มันเป็นครั้งแรกตั้งแต่เฮงล้มป่วย ขณะที่เด่นนำแพะลงไปที่ลำธาร และดินที่กำลังดูแลแปลงผักของครอบครัวอยู่ วรรณต้องการที่ไปบอกให้เด่นว่าเขาจะต้องฆ่าและเป็นคนเชือดลูกแพะที่วิ่งเล่นกับแม่ของมันในฝูง แต่เธอก็ไม่กล้าจะทิ้งเฮงไว้เพียงลำพัง ดินเป็นเพียงคนเดียวที่จะไปได้ ดังนั้นเธอก็หวังว่าดินจะกลับมาทานกลางวัน แต่โดยปกติแล้วเธอก็ทำเช่นนั้น วรรณจึงค่อนข้างมั่นใจว่าเฮงจะได้กินสเต็กเนื้อ

เธอพยายามพูดกับเขา และก็ไม่มีใครได้ยิน เธอจึงใช้การแสดงความรัก

“เฮงที่รัก เธอตื่นหรือยังที่รัก เราทั้งหมด… และฉันเป็นห่วงเธอมาก… ได้โปรดตอบฉัน ถ้าเธอได้ยินฉัน”

“แน่นอน ฉันเพิ่งได้ยินเธอเมื่อตอนฉันตื่น แต่ฉันก็เผลอหลับไปครั้งแล้วครั้งเล่า มัด” เขาพูดด้วยน้ำเสียงใหม่ที่ต่ำ และดังก้อง “และฉันคิดว่าตอนนั้นฉันพลาดบางสิ่งไป โดยทั่วไปแล้วฉันรู้สึกดีขึ้นมาก แค่รู้สึกแปลก ๆ นิดหน่อย ฉันกำลังตั้งตารอทานอาหารเย็น

“ตอนนี้กี่โมงเเล้วนะ”

“สิบเอ็ดโมงสี่สิบห้า เราจะทานอาหารกลางวันกันในอีกสักครู่ เธอต้องการอะไรไหม”

มันมีอะไรบ้างล่ะ”

“โอ้ สลัด…”

“บ๊ะ อาหารกระต่ายหรอกหรือ!”

“แต่ แต่คุณเคยชอบผักสลัดสีเขียวมากนะเฮง… ”

“ฉันเคยชอบด้วยหรือ ฉันนึกไม่ออกเลย และก็จำไม่ได้ว่าชอบมัน”

“แล้วไข่เจียวล่ะ”

ได้นะ ฟังดูดีกว่า เธอช่วยผสมมิลค์เชคให้หน่อยได้ไหม”

“ได้สิ ที่รัก ทำไม่จะไม้ได้ล่ะ ฉันพอมีอยู่ แล้วค่อยเตรียมสำหรับมื้อเย็นทีหลัง

“เราจะรอดินอีกสามสิบนาที ดูว่าเธอจะกลับมาหรือไม่ ฉันต้องการให้เธอไปบอกเด่นให้ฆ่าลูกแพะสักตัวเอาไว้ให้เธอ”

หลังจากรับประทานอาหารกลางวัน ดินก็หยิบมีดสองสามเล่ม และถุงใส่เนื้อ และกระติกสำหรับใส่เลือดให้พี่ชาย เพื่อที่เขาจะได้ทำภาระกิจอันน่ากลัวของเขา จากนั้นดินก็กลับไปที่แปลงผัก

“เธอดูเหมือนจะชอบไข่เจียวใช่ไหม เฮง”

ใช่ มันดีต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารอาหาร อุดมไปด้วยโปรตีน”

วรรณวนเวียนอยู่รอบ ๆ เฮงตลอดบ่าย หั่นผัก และทำน้ำพริก ซอสพริก แต่เฮงก็ไม่พูดอะไรอีกเลย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังจะนอนพักกลางวัน หรืออาจจะงีบหลับช่วงบ่ายหลังจากรับประทานอาหารมื้อแรกในเวลาสองสามวัน

ดินกลับมาเป็นคนแรกในตอนเย็นพร้อมด้วยตะกร้าผัก และสมุนไพรสำหรับทำอาหารในวันถัดไป เด่นมาถึงในเวลาต่อมาเพียงเล็กน้อย และยื่นถุงเนื้อสัตว์ที่ถูกฆ่าเรียบร้อย และกระติกเลือดจากแพะที่ตายให้แม่ของเขา

“ฉันจะต้องไป และทาเกลือลงบนผิวมันเลยใช่ไหม แม่ ฉันขูดหนังมันเหมือนที่พ่อเคยทำให้ดูแล้ว ฉันจะกลับมาอีกยี่สิบนาที”

“ไม่ต้องรีบไป เรายังมีเวลาอีกมาก เธอต้องอาบน้ำก่อนหลังจากเชือดแพะมา ก่อนที่จะมาที่โต๊ะอาหารด้วยนะ”

“แน่นอนครับแม่…”

“อืม มิลค์เชค ฉันได้กลิ่นหอมของมิวล์เชค… ” เฮงคนมันพร้อมกับบ่นงึมงำ

“ใช่ เฮง มิลค์เชค…มัดจะทำมิลค์เชคให้เธอทีหลัง แต่ก่อนอื่นต้องทำอาหารก่อนที่ป้าเธอจะมาถึงที่นี่

วรรณกระซิบบอกดิน” ฉันเชื่อว่าเขาสามารถได้กลิ่นเลือดแพะหรือเนื้อสัตว์ ดูจมูกของเขาสิ กระตุกเหมือนแม่มดเลย ใครจะไปเชื่อว่าอาทิตย์ก่อนหน้านี้ เราจะมีชีวิตได้แบบนี้”

วรรณนำเนื้อส่วนที่เหลือแช่ในช่องแช่แข็ง แล้วเอาเนื้อสำหรับเฮงออกไปหั่นให้เพียงพอที่จะไม่ให้กลิ่นเลือดไปรบกวนเขา และทำงานบ้านต่อไป เฮงกลับไปนอนหลับเหมือนของเล่นไขลานที่ลานอ่อน

ตอนหกโมงสี่สิบห้า วรรณเอาผักที่หั่นแช่น้ำขึ้นจากน้ำให้สะเด็ดน้ำ ติดไฟในถังที่พวกเขาใช้ปรุงอาหารบนบล็อกคอนกรีตเก่าที่อยู่บนโต๊ะ และเติมถ่านไปอีกสองสามก้อน คืนนี้พวกเขาจะทานหมูย่างของโปรดของเด็ก ๆ

อุปกรณ์สำหรับการทำหมูย่างนั้นเรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพ มันเป็น “จาน” โลหะที่มีลักษณะคล้ายกับเครื่องคั้นน้ำส้มสมัยก่อน รางรอบถูกเติมน้ำลงไปสำหรับต้มผัก และเส้นหมี่ที่ทำจากข้าว และย่างเนื้อสัตว์บนส่วนที่นูนคล้ายภูเขา ทุกคนปรุงอาหารของตัวเอง และเติมให้กันและกันเพื่อให้มันยังคงเป็นมื้ออาหารที่ทานร่วมกัน

เมื่อดามาถึงราวทุ่มสิบนาทีพอดิบพอดี วรรณจึงให้ดินไปเอาเนื้อจากตู้เย็นใต้ถุนบ้านออกมา เมื่อเธออยู่ห่างจากโต๊ะไม่เกินสิบหลา เฮง “กลับมามีชีวิตอีกครั้ง” จมูกเริ่มกระตุกได้

“อืม มิลค์เชคล่ะ!”

“รอก่อนสิ เฮง มิลค์เชคเอาไว้ทีหลัง ทานเนื้อลูกแพะย่างก่อน”

“อืม เนื้อลูกแพะย่าง อร่อย ไม่สุกมาก… ”

ดารู้สึกทึ่งและบันทึกไว้ในดวงจิต

เมื่อวรรณใส่เนื้อบนถาดย่าง เฮงถอดแว่นกันแดดออกเพื่อให้มองชัดขึ้นท่ามกลางแสงที่มืดลงอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาส่องประกายเหมือนสัญญาณเตือนไฟสีแดงวาว ทำให้เด็ก ๆ ตัวสั่นด้วยความกลัวและความฉงนใจ

ทุกคนที่นั่นจะบอกว่าผักต้ม และเนื้อสัตว์ปรุงอาหารมีกลิ่นหอมมาก แต่เฮงเป็นคนพูดก่อนเสียด้วย

“เนื้อลูกแพะย่างมีกลิ่นหอมมากในตอนนี้! อย่าเผาเลือด เฮงต้องการเนื้อที่ไม่สุกมาก… ที่ไม่มีผัก กลิ่นมันแย่มาก”

“ใช่ เฮง ฉันรู้ ไม่สุกมาก แต่ก็ไม่ดิบ นี่มันยังดิบอยู่ เธอต้องรออีกสักสองสามนาที”

“ไม่นะ มัด ฉันจะกินแบบนี้ ตอนนี้กลิ่นมันหอมมาก แต่ได้กลิ่นน้อยลงไปเรื่อย ๆ ฉันต้องการของฉันเดี๋ยวนี้”

“เอาล่ะ เฮง เอาที่สบายใจ คุณอยากได้ผักกินกับเนื้อของคุณ หรือเส้นหมี่สักหน่อยไหม”

“ไม่ เอาแต่เนื้อ ต้องการเนื้อกระต่าย ไม่ใช่อาหารกระต่าย”

วรรณเอาเนื้อสองชิ้นมาจากเตาไฟ เอาวางบนจานให้เฮงชิ้นหนึ่ง ยื่นและเอามันให้เขา

“ที่อยู่ตรงนั้นน่ะ พ่อ แต่สำหรับฉันมันก็ยังดูน่ากลัวเหมือนมีเลือดติดอยู่เลย พ่อเคยทำเนื้อสุกเหมือนพวกเรามาตลอดนะ”

เฮงเอาจานขึ้นมาดมกลิ่น เขาทำจมูกกระตุกเหมือนกระต่าย จากนั้นเขาก็วางจานไว้บนตักหยิบชิ้นเนื้อด้วยสองมือขึ้นมาดมกลิ่นอีกครั้ง

“หอมมาก” เขาพูด “สุกไปหน่อย แต่ก็อร่อยดี”

เฮงไม่ได้สังเกตว่าทุกคนกำลังพินิจพิเคราะห์ทุกการเคลื่อนไหวของเขา ในขณะที่เขากัดชิ้นเนื้อเล็กน้อยและเคี้ยวมันด้วยฟันหน้าของเขา อย่างน้อยวรรณก็คาดหวังว่าเขาจะทานเนื้อทั้งหมดในคราวเดียว จากนั้นเขาก็ถือชิ้นเนื้อไว้ในมือข้างหนึ่ง และเอามืออีกข้างฉีกเนื้อเป็นชิ้นเล็ก ๆ ออกมา เมื่อเขาได้เห็นเลือดเยิ้มออกมานิดหน่อย เขาได้นำมันใส่ปากแล้วดูด

ครอบครัวของเขามองหน้ากันไปมาด้วยความฉงนกับดวงตาสีเลือดอมชมพูที่กำลังเพ่งมองเนื้อดุจนกเหยี่ยว

“มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า” เขาถามพร้อมกับเอียงศีรษะไปทางภรรยาอย่างรวดเร็ว

“ไม่มีอะไรเฮง ไม่ได้มีปัญหาอะไร เป็นเรื่องดีมากที่ได้เห็นคุณกินอาหารแข็งได้อีกครั้งเท่านั้นแหละ เราก็แค่มีความสุขเพื่อคุณไม่ใช่หรอกหรือ ใช่ไหมทุกคน”

“ใช่” พวกเขาแสดงความเห็นด้วยอีกครั้ง แต่ดามีความกังวลใจ แม้ว่าเธอจะไม่ได้เตรียมพร้อมที่จะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ในช่วงเวลาที่เหมาะเจาะก็ตาม

“ดีมากเลย! แค่นั้นแหละ” เฮงพูดและกลับไปเลือกอาหารด้วยความเพลิดเพลินอย่างเห็นได้ชัด

เฮงใช้เวลาสามสิบนาทีเต็มในการทานเนื้อหมดไปหกตารางนิ้ว และจากนั้นเขาก็เริ่มแทะกระดูกจนเกลี้ยงและดูดจนแห้งสนิท คนอื่น ๆ พบว่าแทบจะไม่มีสมาธิกับอาหารของตัวเองเอาเสียเลย ผลที่ตามมาคือ รางต้มน้ำแห้งและเนื้อไหม้หลายครั้ง และอาหารจำนวนมากของพวกเขาเสียหายจนกินไม่ได้ ถึงแม้ว่าพวกเขายังคงกินอยู่ เพื่อจะได้ไม่ต้องทิ้งอาหาร

ตอนที่เขากินชิ้นแรกเสร็จ เฮงเช็ดปากด้วยหลังมือและเสร็จเป็นคนแรกแล้วก็เลีย และดูดมันจนสะอาด ผู้ที่เฝ้าดูอาจเดาได้ว่าเฮงเพิ่งได้รับการปล่อยตัวหลังจากการถูกขังเดี่ยวหลายปีในค่ายกักกันที่ทานเพียงขนมปังและน้ำด้วยปริมาณที่จำกัด ไม่มีใครเคยเห็นคนที่ชอบอาหารของพวกเขามากมายขนาดนี้มาก่อน

“พ่อต้องการอีกชิ้นหนึ่งตอนนี้ไหม” ดินถาม

เฮงเอาแผ่นผ้าที่คลุมบ่าและทำท่าสะบัดขึ้นลง เพื่อพยายามทำให้ตัวเองสบายขึ้น และเด่นก็ช่วยเอาจานออกจากตักของเขาก่อนที่มันจะตกลงไป

“เราจะรอให้ท้องลงก่อน” เฮงพูด “และจากนั้นจะทานต่อ อาหารอร่อยมาก เฮงชอบมันมาก”

เด่นมองไปที่แม่ของเขา และเธอก็รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร เฮงพูดภาษาไทยแบบนกพิราบ และไม่มีใครเคยได้ยินการพูดที่แย่ขนาดนี้มาก่อน แม้ว่าภาษาไทยของเขาจะไม่สมบูรณ์แบบนัก เพราะเขามีพ่อแม่เป็นคนจีน

และคนอื่น ๆ เริ่มทำอาหารให้ตัวเอง และเฮงเริ่มนิ่งอีกครั้ง แล้วก็มีเสียงบดขยี้ที่ไม่ค่อยชัดมาจากตัวเขาอีกครั้ง ทุกคนรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ก็แสดงออกอย่างสุภาพ ต่างก็แสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วก็ดังมาอีกครั้ง และกลิ่นที่แย่มากก็โชยมา

มีเพียงวรรณและดาที่กล้ามองดูเฮงที่ยิ้มกว้างภายใต้แว่นตาดำของเขา

เด่นเริ่มหัวเราะคิกคัก จากตอนแรกที่เงียบ แต่เขาไม่สามารถกลั้นมันไว้ได้นาน ดินก็เริ่มหัวเราะออกมา

“เงียบก่อน ลูก! พ่อไม่สามารถควบคุมได้ เขาป่วยอยู่” วรรณบอก “อาหารแข็งต้องผ่านเข้าไปในตัวเขา”

อย่างไรก็ตาม เด่นและดินไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เฮงนั่งลงตรงนั้น ด้วยใบหน้าที่ฉีกยิ้มกว้างอย่างสำราญใจ อีกไม่กี่นาทีต่อมา กลิ่นก็ยังไม่หายไป วรรณพูดกับเด่น:

“เอาพ่อไปห้องน้ำได้ไหม เด่น เดี๋ยวเขาจะทำความสะอาดตัวเอง ถ้ายังมีปัญหาอะไร แค่ตะโกนแล้วแม่จะไปช่วยเอง

“เฮง เอากางเกงในของเธอใส่ในตะกร้าซักผ้านะ ฉันจะแยกมันออกในวันพรุ่งนี้”

เมื่อถอดมันออกแล้ว วรรณบอก:

“เอาล่ะ ฉันบ้างนะ! โอ้ ฉันบ้างนะ ป้าทำอะไรกับสิ่งนั้น ป้าดา”

“แปลกมากใช่ไหม แต่พฤติกรรมของเฮงทำให้ฉันนึกถึงนก ฉันไม่สามารถวางนิ้วลงบนมันได้ แต่วิธีที่เขานั่งอยู่ตรงนั้นราวกับว่าเขาเกาะอยู่ และวิธีการกินของเขาด้วยการฉีกกิน… นกก็ทำอย่างนั้น ฉันคิดว่าสัตว์หลายตัวก็ทำเช่นกัน แต่เธอดูไก่ในลานบ้านเธอสิ ฉันไม่สามารถเอามันออกไปจากใจของฉันได้ เขาเกาะพักที่แผ่นผ้าของเขา และสวมแว่นตาหลังจากกินเนื้อไปแล้ว”

“ดังนั้นอย่าคิดว่าเขาจะกลั้นการขับถ่ายได้ใช่ไหม ฉันค่อนข้างกังวลเกี่ยวกับเตียงของเรา… เราเพิ่งซื้อที่นอนใหม่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา…มันจะน่าเสียดายใช่ไหม ป้าคิดว่ามันจะเป็นอะไรไหมที่เราจะให้เขาอยู่ในโรงนาจนกว่าเราจะแน่ใจ”

“ไม่ ไม่ต้องห่วงหรอก! ไม่มีนกแม้ตัวเดียวอึในรังของมันเอง แม้ว่าเธอต้องการให้เขาใส่ผ้าอ้อมจนกว่าเราจะรู้ว่าเขาดีขึ้น… หรือใส่กางเกงในสำหรับคนกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ถ้าพอมี แต่เธอต้องไปซื้อมันในเมืองนะ

ตอนที่เฮงกลับมาพร้อมเด่น เขาดูหงอลงเล็กน้อย รู้สึกอายขึ้นมา

“เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม เฮง” ผู้เป็นภรรยาถามเขา

“ใช่ อุบัติเหตุเล็กน้อย “ไม่เป็นไร ไม่มีปัญหาอะไร ไม่มีอะไรอีกแล้วในวันนี้ ไปที่เตียงเดี๋ยวนี้”

“ได้ เป็นความคิดที่ดี ป้าดา มิลค์เชคของเขาเป็นอะไร”

“ฉันคิดว่าจริง ๆ แล้วเขาควรจะกินอะไรบางอย่างก่อนไปนอน ไม่ต้องกังวลเรื่องเตียงใหม่ของเธอนะ เขาไม่เคยทำสกปรกแบบนั้นมาก่อน ดังนั้นฉันก็ไม่คิดว่าคืนนี้เขาจะทำเช่นกัน แต่ฉันไม่อยากให้เขาตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อหาอะไรกิน ถ้าฉันอยู่ในบ้านกับเขา”

“ไม่ เธออาจพูดถูก เด่น เอาพ่อนั่งขอบโต๊ะสักครู่ก่อน ดิน เอามิลค์เชคมาสักแก้วได้ไหม”

เมื่อเขากระดกดื่ม และไม่มีเสียงหรือกลิ่นที่น่าสงสัยออกมา วรรณบอกให้ลูก ๆ พาพ่อเข้านอน

“ฉันจะขึ้นไปในไม่ช้าเพื่อไปดูเขา แต่คิดว่าเขาคงจะนอนหลับแล้วตอนนี้”

“เอาล่ะ เอาล่ะ เอาล่ะ ป้าดา มีอะไรที่ต้องทำคะ ตอนนี้เรามีนกตัวหนึ่งอยู่ในครอบครัว! ป้าคิดเรื่องนั้นยังไงบ้าง”

“ฉันไม่แน่ใจเลย วรรณ แต่เรื่องตลกของเธอเข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกทีรู้ไหม เราจะต้องรอดูก่อนสิ

“มาดูกันว่าเขาต้องการอพยพไปทางใต้ในช่วงฤดูหนาวก่อนหรือไม่”

วรรณไม่แน่ใจว่าป้าดาพูดติดตลกอย่างนั้นจริง ๆ หรือไม่ ดังนั้นเธอจึงยิ้มอ่อน ซึ่งเธอหวังว่าจะไม่สามารถหยั่งรู้ได้ แต่ก็รู้ดีว่านั่นไม่ใช่ป้าดา แต่คือหมอผี

เธอรู้สึกเป็นกังวล แต่จากนั้นใครล่ะจะไม่อยู่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้

Конец ознакомительного фрагмента.

Текст предоставлен ООО «ЛитРес».

Прочитайте эту книгу целиком, купив полную легальную версию на ЛитРес.

Безопасно оплатить книгу можно банковской картой Visa, MasterCard, Maestro, со счета мобильного телефона, с платежного терминала, в салоне МТС или Связной, через PayPal, WebMoney, Яндекс.Деньги, QIWI Кошелек, бонусными картами или другим удобным Вам способом.

Вы ознакомились с фрагментом книги.

Для бесплатного чтения открыта только часть текста.

Приобретайте полный текст книги у нашего партнера:

Полная версия книги

Всего 10 форматов